วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560

Present Simple Tense คืออะไร มีวิธีใช้งานอย่างไร

เชื่อเหลือเกินว่า คนที่เรียนภาษาอังกฤษมาแล้ว ต้องผ่านด่านแรกนี้มาทุกคน 

ด่านแรกที่ว่านั้นคืออะไร แน่นอน ด่านแรกทีว่าก็คือ Present Simple Tense  หรือ Simple Present Tense นั่นแหละ จะเรียกแบบไหนก็ตามแต่ มันคือตัวเดียวกัน



Tense นี้มักจะถูกใช้ในการสื่อสารมากกว่า Tense ใดๆ สาเหตุมาจากการที่มันง่าย และยังสามารถใช้ได้อย่างกว้างขวางนั่นเอง

Present Simple Tense มีโครงสร้างทางไวยากรณ์ที่ง่ายมากๆ คือ มีประธาน (Subject) กับ กริยาช่องที่ 1
(Subject + V.1)


เป็นอย่างไรบ้างล่ะคับ ง่ายใช่มั้ย ก็ชื่อมันก็บอกว่ามันเป็น Simple คือ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ยกตัวอย่างประโยคให้ดูกันนะ เช่น

Hi, How are you?
สวัสดี เป็นอย่างไรบ้าง สายดีหรือเปล่า?
I'm fine, thank you, and you.?
ผม/ฉัน สบายดี แล้วคุณล่ะ เป็นอย่างไรบ้าง?
I'm fine. Thank you.
ผม/ฉัน สบายดี ขอบคุณ

นี่คือสิ่งที่คุณใช้ในการพูดสนทนากันซึ่งๆหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในปัจจุบัน ที่เกิดขึ้นซึ่งๆหน้าขณะพูดเลย

I usually wake up late.
ฉันมักจะตื่นสาย

How often do you go to the gym?
เธอไปออกกำลังกายที่โรงยิมบ่อยแค่ไหน?
I go to the gym twice a week.
ฉันไปออกกำลังกายที่โรงยิมสองครั้งต่อสัปดาห์จ้ะ

Do you seldom clean your house?
นานๆ ครั้งเธอถึงจะทำความสะอาดบ้านใช่มั้ย?
Yes, I do.
ใช่แล้ว นานๆ ครั้ง ฉันถุีงจะทำ
So do I.
ฉันเองก็เหมือนกัน

ประโยคเหล่านี้ ไม่ได้เป็นประโยคที่เป็นเหตุการณ์เฉพาะตอนนี้ หรือวันนี้ แต่ทว่ามันกลับครอบคลุมไปวันอื่นๆ เดือนอื่นๆ ปีอื่นๆ

บางเหตุการณ์กลับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเป็นประจำ บางเหตุการณ์กระทำเป็นนิสัย กันเลยทีเดียว

สังเกตได้จากไหนล่ะ ก็คำกริยาวิเศษณ์ ที่ใส่มาในประโยคนั่นไง เช่น

often (บ่อยๆ)  always (เสมอๆ)  usually  (โดยปกติ) twice a month (สองครั้งต่อเดือน)

ซึ่ง คำกริยาวิเศษณ์ เหล่านี้ มักจะพบในประโยค Present Simple Tense  เสมอๆ เลยล่ะ

ยังมีประโยคที่เป็น ข้อเท็จจริงที่เห็นและเป็นอยู่ อีกมากมายที่เป็นประโยค Present Simple Tense  จะลองยกตัวอย่างมาให้ดูกัน

I'm Thai.                         ฉันเป็นคนไทย
My name is Somchai.    ฉันชื่อสมชาย
I'm a student.                 ฉันเป็นนักเรียน นักศึกษา
I live in Ayuthaya.         ฉันอาศัยอยุ่ในอยุธยา
I love my country.         ฉันรักประเทศของฉัน

อย่าลืม สิ่งเหล่านี้คือ ธรรมชาติ และ ข้อเท็จจริง ของความเป็น Present Simple Tense

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น ที่แสดงถึง ข้อเท็จจริง หรือ fact

Ice is cold.                                       น้ำแข็งมันเย็น
Fishes swim in the water.                ปลาตัวไหนก็ว่ายน้ำ
Still water runs deep.                      น้ำนิ่งไหลลึก
Bangkok is in Thailand.                  กรุงเทพ อยู่ในเมืองไทย

ที่บอกว่าประโยคเหล่านี้มันเป็นจริง เพราะว่า ถ้าเราสังเกต จะเห็นว่า เวลาที่เราพูดประโยคเหล่านี้ ไม่มีใครสงสัยหรอกว่า มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะเขาจะสนใจเรื่องข้อเท็จจริง มากกว่าเรื่องของเวลาในการเกิด

สรุป 

     สาระสำคัญของ Present Simple Tense  คือ จะใช้ในกรณีที่เกิดขึ้นซึ่งๆหน้า และ ข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่นั่นเอง






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น