การแปลสำนวนต่างๆ เราไม่สามารถทำการแปลตรงๆ ตามคำศัพท์ที่ปรากฎสำนวนนั้นได้ ประสบการณ์เท่านั้นที่จะช่วยให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้น
จริงอยู่ที่ว่าสำนวนเหล่าน้้น มีความยากมากๆ ในการตีความ และทำความเข้าใจ แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่เราไม่สามารถพิชิตลงได้ถ้าหากว่าเรามีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริง
มาดูกันสิว่า มีสำนวนอะไรบ้างที่น่าสนใจ
1. 'to fed up with '
หมายถึง เอียน เหนื่อยหน่าย เอือมระอา ยกตัวอย่างประโยคในข้อสอบ Dialog ของข้อสอบ O'net ประจำปีการศึกษา 2558 ดังนี้I'm really fed up with this machine. I want to get rid of it.
ฉันรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเจ้าเครื่อง(คอมพิวเตอร์) นี้จริงๆ ฉันต้องการกำจัดมันทิ้งไปให้พ้นๆ
ประโยคนี้ มีสิ่งที่ให้เราได้เรียนรู้อยู่สองประเด็น ก็คือ
1. สำนวนภาษาอังกฤษ
2. หลักการเดาศัพท์จากบริบท
จะสังเกตเห็นว่า คำยากคือคำว่า be fed up with ส่วนคีย์เวิร์ดที่จะทำให้เราเดาความหมายของวลีตัวนี้ได้นั้น คือประโยคที่ตามมานั่นเอง
I want to get rid of it. หมายถึง ฉันต้องการกำจัดมันทิ้งไปให้พ้นๆ
ดังนั้น เราก็สามารถนำประโยคนี้ไปช่วยในการตีความสำนวนที่ว่านี้ได้ว่าในส่วนหน้านั้นน่าจะมีความหมายในเชิงลบ เพราะว่าประโยคหลังเป็นประโยคที่เราน่าจะคุ้นเคยมากกว่า
2. 'Hang on'
หมายถึง หยุดก่อน หรือ รอเดี๋ยว ยกตัวอย่างประโยคในข้อสอบ Dialog ของข้อสอบ O'net ประจำปีการศึกษา 2558 ดังนี้A: I'm really fed up with this machine. I want to get rid of it.
B: Hang on. Your notebook is okay. The problem is with the printer.
A: ฉันรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับเจ้าเครื่อง(คอมพิวเตอร์) นี้จริงๆ ฉันต้องการกำจัดมันทิ้งไปให้พ้นๆ
B: เดี๋ยวก่อนหรือใจเย็นๆ โน๊ตบุ้คของคุณไม่เป็นไร ปัญหามันอยู่ที่เครื่องปริ้นเตอร์ของคุณต่างหาก
3. 'Make yourself at home'
หมายถึง ทำตัวตามสบาย (เหมือนอยู่ที่บ้านคุณนั่นแหละ)สำนวนนี้เจอบ่อยมากๆ แทบจะเป็นสำนวนยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นในหนังสือเรียน หรือ แม้แต่ในภาพยนตร์ หรือ ซีรี่ย์ ต่างๆ
เราจะใช้สำนวนนี้เมื่อมีคนมาเยี่ยมเรา อาจจะเป็นที่บ้านเราเองหรือที่ทำงานก็ได้ เมื่อเราต้องการให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เกร็งหรือประหม่าจนเกินไปนั่นเอง
4. 'Get well soon'
หมายถึง ขอให้หายไวๆ นะ (หายจากอาการป่วยไข้)สำนวนนี้ใช้เมื่อเราไปเยี่ยมคนป่วย ไม่ว่าจะเป็นที่โรงพยาบาล หรือ ที่บ้านก็ตาม เราสามารถใช้สำนวนนี้ได้ทันที เช่น
Lisa is visiting a sick colleague at the hospital. She says: Get well soon. ลิซ่าไปเยี่ยมเพื่อนร่วมงานที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล เธอจะพูดว่า 'หายไวๆนะ'
5. 'Take it easy'
หมายถึง ทำตัวตามสบาย ผ่อนคลายสำนวนนี้ปรากฎในข้อสอบ O'net ประจำปีการศึกษา 2558 ด้วยเช่นกัน เช่น
I don't have any plans this weekend. I think I'll take it easy.
ฉันไม่มีแผนสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ฉันคิดว่าจะทำตัวสบายๆ ไม่ซีเรียส
6. 'Calm down'
หมายถึง สงบสติอารมณ์ สงบใจเวลาที่มีใครกำลังระเบิดพลังความโกรธออกมา หรือโวยวายใส่คนนั้นคนนี้ เราสามารถใช้สำนวนนี้กับเขาได้เลย เพื่อให้เขาได้สงบสติดอารมณ์ลงมา แต่ถ้าไม่ได้ผลก็ให้รีบวิ่งหนึกันได้เลย ตัวใครตัวมัน เช่น
Calm down. Take a rest for a while
ใจเย็นๆ พักผ่อนสักครู่ก่อน
7. 'Don't be upset'
หมายถึง อย่าหัวเสีย อย่าอารมณ์เสีย เช่นDon't be upset. It's a short break.
อย่าอารมณ์เสียไปหน่อยเลย มันเป็นการหยุดพักแค่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
8. 'be caught red-handed' หรือ 'be caught in the act'
หมายถึง ถูกจับได้คาหนังคาเขาNine people in Mexico were caught red-handed on Tuesday digging a tunnel.
มีคนจำนวน 9 คน ถูกจับได้คาหนังคาเขาในเม็กซิโกในวันอังคารขณะกำลังขุดอุโมงค์
ประโยคนี้มาจากสำนักข่าว APP ซึ่งปรากฎในข้อสอบ O'net ประจำปีการศึกษา 2558 ว่าด้วยเรื่อง Reading Comprehension หรือการอ่านเพื่อความเข้าใจนั่นเอง
9. 'be on (your) guard'
หมายถึง ระมัดระวัง ระวังจากการถูกหลอกลวง เช่น
Be on your guard! Don't feel obliged to buy anything you don't really want.
จงระมัดระวัง อย่าหลวมตัวซื้อของที่ไม่จำเป็นสำหรับคุณ
You always have to be on your guard against pickpockets.คุณต้องระมัดระวังเสมอๆ ต่อพวกนักล้วงกระเป๋า
10. 'be sick of'
หมายถึง เบื่อหน่ายกับบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิ่งที่คุณทำจนซ้ำซากจำเจ เช่นI am sick and tired of cleaning up after you.
ฉันเบื่อหน่ายกับการคอยตามล้างตามเช็ดสิ่งที่คุณทำเลอะเทอะเอาไว้
Mary was sick of being stuck in traffic.
แมรี่เบื่อหน่ายกับการติดแหง็กอยู่ในการจราจร
11. 'be fond of'
หมายถึง ชอบมากเช่น
I am fond of my nieces ans nephews.
ฉันชอบหลานๆของฉัน
I am fond of ballet.
ฉันชอบบัลเล่ย์
12. 'a nose-to-tail'
หมายถึง ในระยะกระชั้นชิดเช่น
I bet there was a nose-to-tail accident, because the front car was seriously damaged and the other car was completely damaged at the back.
ฉันพนันได้เลยว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระยะกระชั้นชิด เพราะว่ารถคันหน้านั้นเสียหายอย่างหนัก และอีกคันหนึ่งด้านหลังเสียหายหมดเลย
ข้อสำคัญ คือเราต้องอ่านให้มาก และทบทวนนะคับ อย่าลืมว่า "The more you read, the more skillful you become."
Keep going.
สู้ๆ คับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น