The Passive Voice หรือ The Passive มักใช้เพื่อบรรยายถึงประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โดยผู้กระทำจะวางหลังคำบุพบท 'by' หรือในบางครั้งอาจจะไม่นำมาเขียนก็ได้ ถ้าหากว่า เรารู้อยู่แล้วว่าใครทำ หรือเราไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำ หรือไม่มีความสำคัญที่กล่าวถึงในประโยคนั้น
โดยมีโครงสร้างพื้นฐาน ดังนี้
ตัวอย่างประโยค The Passive Voice แยกตามลักษณะของ Tense ได้ดังนี้
Simple Present Tense หรือ Present Simple Tense
Vegetables are purchased everyday.ผักถูกซื้อทุกๆ วัน
The car is washed every morning.
รถถูกล้างทุกๆ เช้า
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ 'be' ได้เปลี่ยนรูปเป็น 'is' และ 'are' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Simple Present Tense หรือ Present Simple Tense นั้น vert to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Present Progressive Tense
The food is being cooked.อาหารกำลังถูกปรุงหรือทำ
Various foods are being cooked.
อาหารที่หลากหลายกำลังถูกปรุงหรือทำ
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' ต้องอยู่ในรูป 'is being' และ 'are being' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Present Progressive Tense นั้น verb to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Present Perfect Tense
Many recipes have been tested.สูตรอาหารหลายต่อหลายสูตรได้รับการทดสอบแล้ว
The chef's special dish has been tried over the years.
อาหารจานพิเศษของเชฟคนนี้ได้รับการชิมติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' ต้องอยู่ในรูป 'been' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Present Perfect Tense นั้น verb to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Simple Past Tense หรือ Past Simple Tense
Some dishes were served cold.อาหารบางอย่างถูกเสิร์ฟขณะที่เย็น
In the past, meat was always served while it is still hot.
ในอดีตที่ผ่านมา อาหารประเภทเนื้อมักถูกเสิร์ฟตอนที่ยังร้อนๆ
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' ต้องอยู่ในรูป 'was' และ 'were' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Past Simple Tense นั้น verb to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Past Progressive Tense
The salad was being made by the chef.สลัดกำลังถูกปรุงหรือทำโดยเชฟ
The special dishes were being cooked by the kitchen assistant.
อาหารที่พิเศษกำลังถูกทำโดยกุ๊กหรือคนครัว
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' ต้องอยู่ในรูป 'was being' และ 'were being' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Past Progressive Tense นั้น verb to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Past Perfect Tense
The tables had been set by the waiters.โต้ะอาหารถูกจัดโดยพนักงานเสิร์ฟ
The food had been prepared before we reached the restaurant.
อาหารถูกทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนที่พวกเราจะไปถึงร้านอาหาร
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' ต้องอยู่ในรูป 'had been' จึงพอจะสรุปได้ว่า ในการสร้างประโยคที่เป็น Past Perfect Tense นั้น verb to be สามารถเป็นได้ ดังนี้
Future Tense
All guests will be served at their table.แขกทั้งหมดจะถูกเสิร์ฟที่โต๊ะของพวกเขา
Classical music is going to be played during dinner.
เพลงบรรเลงคลาสสิคจะถูกบรรเลงในระหว่างมื้อเย็น
จะเห็นว่า ในประโยคนี้ ในส่วนของ 'be' จะอยู่ในรูป 'will be' และ 'is/are going to be' ซึ่งมีโครงสร้างที่ควรจดจำ ดังนี้
Modals in the passive หรือ กริยาที่ตามหลังด้วยกริยาช่องที่ 1 สามารถเขียนในรูปของ the passive ได้ดังนี้
Meat can be roasted in an open fire.
เนื้อสามารถปิ้งกับไฟได้
The fire should be kept high during the process.
ไฟควรจะได้รับการเก็บในที่สูงระหว่างการดำเนินการ
Charcoal may be used as fuel.
ถ่านอาจถูกใช้เป็นเชื้อเพลิง
The meat must be served while it is still hot.
เนื้อจะต้องถูกเสิร์ฟขณะที่มันยังร้อน
เป็นอย่างไรบ้างคับ หลังจากนี้ ก็เป็นภาระอันหนึกอึ้งของท่านแล้วล่ะ ที่จะฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ และให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตัวท่านเอง
ขอให้เก่งยิ่งๆ ขึ้นไปนะคับ เป็นกำลังใจให้คับ
Go Go Go
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น